มหาวิทยาลัยคริสเตียน

หุ่นจำลองเสมือนจริง

หลักการและเหตุผล

     การเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เสมือนจริง (Simulation Based Learning) เป็นวิธีการเรียนการสอนทางการพยาบาลอย่าง หนึ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวม ผู้เรียนสามารถปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์เสมือนจริงซ้้าได้หลายครั้ง จนเกิดความมั่นใจก่อนให้การพยาบาลผู้ป่วยจริง ช่วยให้ผู้เรียนรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์การดูแลผู้ป่วยจริงมากที่สุด และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยเมื่อต้องไปให้การพยาบาลผู้ป่วยในสถานการณ์จริง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายแล้วว่าการเรียนรู้วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะปฏิบัติการพยาบาล การทำงานเป็นทีม ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการตัดสินใจ การสร้างเจตคติที่ดีต่อการดูแลผู้ป่วย และช่วยให้ผู้เรียนสามารถจดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้ยาวนานกว่า วิธีการสอนชนิดอื่น ทั้งนี้เพราะผู้เรียนได้เรียนรู้ไปพร้อมกับการลงมือปฏิบัติจริงในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและส่งเสริมการเรียนรู้และจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้มีผลกระทบต่อการจัดการเรียนในภาคปฏิบัติเนื่องจากนักศึกษาไม่สามารถไปฝึกปฏิบัติในโรงพยาบาลได้ จึงจ้าเป็นที่ต้องมีการจัดการเรียนในห้องปฏิบัติการพยาบาลเพื่อให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการปฏิบัติการพยาบาล สถาบันการศึกษาสาขาพยาบาลศาสตร์ในประเทศไทยทั้งภาครัฐบาลและเอกชนมากกว่าร้อยละ 90 มีการใช้หุ่นจำลองทางการแพทย์มาใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เสมือนจริงท้าให้ผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษามีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าวในปีการศึกษา 2565 คณะพยาบาลศาสตร์จึงเห็นความสำคัญในการระดมทุนเพื่อจัดซื้อหุ่นจำลองทางการแพทย์และพัฒนาห้องปฏิบัติการ Simulation เพื่อใช้พัฒนาการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลใน รายวิชาต่างๆ เช่น การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ การพยาบาลผู้ป่วยในภาวะวิกฤติ การพยาบาลมารดา ทารก และผดุงครรภ์ การพยาบาลชุมชนให้สามารถฝึกปฏิบัติการพยาบาลได้เสมือนจริง มีทักษะในการปฏิบัติการพยาบาลได้อย่างมั่นใจก่อนที่จะฝึกปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล จะช่วยให้นักศึกษาพยาบาลดูแลผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย การพัฒนาครั้งนี้เป็นการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน ซึ่งจะเป็นการสร้างมาตรฐานในการผลิตพยาบาลวิชาชีพที่มีคุณภาพในการรับใช้สังคมต่อไป

งบประมาณในการจัดซื้อหุ่น

รายละเอียด

1. หุ่นจำลองฝึกทักษะด้านการวินิจฉัยโรคและช่วยฟื้นคืนชีพขั้นสูงพร้อมระบบกล้อง สี่ทิศทาง จำนวน 1 ชุด และ หุ่นฝึกทำคลอดและช่วยชีวิตขั้นสูงเสมือนจริงครบวงจรพร้อมจอภาพแสดงสัญญาณชีพ จำนวน 1 ชุด รวม 7,880,000 บาท

2. การปรับปรุงและจัดทำห้อง Simulation room จำนวน 6 ห้อง รวม 600,000 บาท

     หุ่นจำลองผู้ใหญ่ SimMan ใช้สำหรับการฝึกช่วยชีวิตขั้นสูง มีระบบทางเดินหายใจเสมือนจริงและสามารถแสดงอาการผิดปกติการหายใจ อาการเหนื่อย อาการเขียว ความผิดปกติของการขยายรูม่านตา เสียงหัวใจที่ผิดปกติ คลำชีพจรในส่วนต่างๆของร่างกายสามารถวัดความดันโลหิตได้ กรณีที่มีภาวะวิกฤตสามารถใส่ท่อช่วยหายใจ การทำ CPR และสามารถใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าได้การให้สารน้ำที่แขนทั้งสองข้าง การสวนปัสสาวะ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจในการช่วยเหลือได้จริงสามารถแสดงการตรวจคลื่นหัวใจ (EKG 12 Leads) แบบ Real time พร้อมเลือกประเภทของ EKG ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับเสียงหัวใจและอัตราการเต้นของหัวใจในแต่ละสถานการณ์ ทำให้ผู้เรียนสามารถให้การช่วยเหลือได้ถูกต้องและเกิดความปลอดภัยกับผู้ป่วย

     หุ่นจำลองหญิงตั้งครรภ์ SimMom ใช้ในการฝึกการดูแลทางสูติศาสตร์ทั้งในช่วงก่อนคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด โดยสามารถแสดงอาการผิดปกติของมารดา ได้แก่ การเคลื่อนไหวของดวงตา การขยายของรูม่านตา สามารถใช้ฝึกการตรวจครรภ์โดยสามารถจัดท่าของทารกเป็นท่าหัว ท่าก้น และท่าขวาง สามารถทำคลอดทารกแบบปกติและผิดปกติ เช่น การคลอดติดไหล่ คลอดท่าก้นการใช้คีม การใช้เครื่อง
สูญญากาศ การทำคลอดรก การคลำขนาดของมดลูก การแสดงภาวะตกเลือดในระหว่างการคลอดและหลังคลอด

     หุ่นจำลองเด็กทารกสำหรับการคลอดมีขนาดและน้ำหนักเสมือนจริง โดยสามารถส่งเสียงร้อง แสดงการหายใจ อาการเขียว ทำให้ผู้เรียนสามารถประเมินเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติทั้งของมารดา ทารกในครรภ์และทารกแรกคลอดเพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ